ออสเตรเลียได้เริ่มดำเนินการทบทวนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (antidumping duties) สำหรับเหล็กเส้น (rebar) จากบริษัท Baowu Group Echeng Iron and Steel Ltd หรือ Echeng ของจีน โดยเป็นผู้ส่งออกรายเดียว คณะกรรมการต่อต้านการทุ่มตลาด กล่าวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม
คณะกรรมการกล่าวว่า ทาง Echeng ได้ร้องขอให้มีการพิจารณาทบทวน โดยเสริมว่า “จะขอตรวจสอบว่าปัจจัย ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการใช้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดว่าได้เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่”
Echeng ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Baowu Steel Group ซึ่งเป็นบริษัทเหล็กรายใหญ่ของจีน มีกำลังการผลิตเหล็กอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านตันต่อปี
ผู้ค้าเหล็กรายหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในจีนกล่าวว่า ภาษีดังกล่าวมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อตลาดเหล็กของออสเตรเลีย เนื่องจากตลาดเหล็กของออสเตรเลีย "อิ่มตัวแล้ว" และการขอให้พิจารณาทบทวนดังกล่าวอาจเป็นเรื่องของ "การหาทางออก" สำหรับโรงงานเหล็กในจีนมากกว่า เนื่องจากมีอุปทานล้นตลาดในประเทศ ท่ามกลางภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ ซึ่งโดยทั่วไปภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนคิดเป็นประมาณ 26% ของการบริโภคเหล็กทั้งหมดของประเทศ
คำร้องของ Echeng นี้สืบเนื่องมาจากการประกาศของคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ว่า คณะกรรมการกำลังตรวจสอบอัตราภาษีเพื่อตัดสินใจว่าจะต่ออายุมาตรการดังกล่าวหรือไม่ หลังจากได้รับคำร้องจาก InfraBuild (Newcastle) Pty Ltd.
ภาษีนำเข้าเหล็กเส้นของจีนเริ่มบังคับใช้ครั้งแรกในวันที่ 13 เมษายน 2016 และต่ออายุในวันที่ 2 มีนาคม 2021 โดยภาษีนำเข้าปัจจุบันอยู่ที่ 19% และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 13 เมษายน 2026
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการอธิบายว่าเป็น " hot-rolled deformed steel reinforcing bar ไม่ว่าจะเป็นม้วนหรือไม่ก็ตาม โดยทั่วไปเรียกว่า rebar หรือ debar ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางต่างๆ กัน ไปจนถึงและรวมถึง 50 มิลลิเมตร โดยมีรอยบุ๋ม ซี่ ร่อง หรือรูปร่างอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการรีด (rolling process) "
โดยเหล็กเส้น นี้จะอยู่ภายใต้พิกัดศุลกากร (HS codes) 7213.10.00.42, 7214.20.00.47, 7227.90.10.69, 7227.90.90,01, 7227.90.90,02, 7227.90.90.04, 7228.30.10.70, 7228.30.90.40 และ 7228.60.10.72
โดยคณะกรรมาธิการได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม สำหรับเหล็กเส้นรีดร้อนชนิดม้วน (hot-rolled rods in coils) ที่นำเข้าจากจีน โดยการทบทวนดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กของออสเตรเลียกำลังพูดคุยกับรัฐบาลกลาง เพื่อบังคับใช้มาตรการป้องกันการนำเข้า (safeguard measures)